Sunday 20 July 2008

ฤดูน้ำหลาก

หมดจากฤดูฝน ที่บ้านผมก็เข้าฤดูน้ำหลาก น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยราวๆ เดือนกันยายนของทุกปี แล้วก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ


ด้วยเหตุที่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทองนั้น เป็นอำเภออกแตก หมายความว่าที่อำเภอนี้มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่ากลางอำเภอ อีกทั้งตลาดป่าโมกก็มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ดังนั้น ตั้งแต่เด็ก อย่างน้อยทุกสองปี ที่บ้านผมจะต้องเผชิญกับอุทกภัย หรือน้ำท่วมเป็นประจำ


ตั้งแต่เด็ก ผมชอบมากเวลาน้ำท่วม ตามวิสัยของเด็ก เพราะผมจะได้เล่นน้ำ ได้ตกปลาที่หน้าบ้าน หรือใกล้ๆบ้านนั่นแหละ ตั้งแต่เด็กผมจึงเรียนรู้เรื่องราวมากมายจากน้ำที่ท่วมที่ตลาดป่าโมก


  • การเดินทางไปไหนยามน้ำท่วม เรือกลายเป็นพาหนะที่สำคัญ ผมต้องฝึกพายเรือตั้งแต่เด็ก ดังนั้นการพายเรือสำหรับผมมันหมูๆ ไม่ว่าจะเป็นการพาย งัด ถ่อ แจว โอ๊ยอย่าให้เซด หรือจะเรืออีป๊าบ อีโปง เรือเข็ม เรือขุด แต่การเดินทางโดยเรือมันอาศัยเวลาเป็นอย่างมาก จำได้ว่าประมาณปี 2537 น้ำท่วมใหญ่ ผมต้องพายเรือไปซื้อน้ำตาลทรายสักกิโล ถ้าปกติขี่รถมอเตอร์ไซด์ ก็ ไม่เกิน 10 นาที แต่วันนั้นผมพายเรือไปกลับเกือบชั่วโมง

  • พาย ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการดำรงชีวิต เชื่อไหมว่าผู้คนห่วงพายมากกว่าเรือเสียอีก เพราะพายคู่ใจที่ดีก็เสมือนการมีอาวุธคู่กายที่ดี ดังนั้นเวลาผู้คนเดินทางไปไหน พอจอดเรือได้ที่ ก็เดินถือพายมาช็อปปิ้งซื้อข้าวของกันให้ควั่ก

  • ใครจะนึกว่าการตกปลาที่หน้าบ้านในยามน้ำท่วมนั้น มันท่าจะง่าย ไม่หรอกครับ ไม่ง่าย เพราะจากประสบการณ์ผมเรียนรู้ว่า เมื่อน้ำมาปลาจะไม่มี เราต้องรอให้น้ำขึ้นและคงตัว คือไม่ขึ้นไม่ลง ไม่ไหลแรง ยามนั้นย่อมได้เวลาลงเบ็ดแล้ว แล้วปลาอะไรที่มักจะได้ ส่วนมากก็เป็นปลาซิว ปลากระแหทอง ปลาสังกะวาส ปลาหมอ ปลาสลิด แต่เชื่อไหมในชีวิตผมเคยตกได้ปลาทองอ่ะ

  • การจับปลาจำนวนมากโดยเฉพาะปลาซิว ซึ่งมีตัวเล็กนั้น หากเราจะนั่งตกทีละตัวละก็ยากส์ ดังนั้นวิธีที่จะได้ปลาซิวเยอะๆในคราวเดียว ก็คือ การเอากระด้งตะล่อม ๆไปช้อนปลาซิวที่มาเล่นแสงไปตามทางนั่งเอง ช้อนทีเดียวก็ได้เป็นสิบตัวแล้ว

  • การอาบน้ำ ก็ใช้น้ำที่ท่วมนั่นแหละอาบ แต่ใครจะรู้ว่าการนั่งอาบน้ำที่หน้าบ้านของตัวเอง หาได้สามารถทำได้ทุกเวลาที่อยากนะ เพราะเวลาที่สามารถอาบได้คือหกโมงเย็น จากนั้นก็ต้องรอให้พ้นสามทุ่มไปแล้ว เพราะอะไรนั่นเหรอ ก็เพราะว่าเวลา หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม ทุกบ้านเขาจะล้างจานนะสิ ฟองนี้ฟอด ลอยฟ่องมาเลย แล้วใครจะกล้าสระผมล่ะ

  • พูดถึงระดับน้ำแล้ว ในชีวิตผมน้ำที่ท่วมสูงสุดที่ผมเจอก็คือน้ำท่วมในปี 2537 เพราะปีนั้นที่บ้านผมน้ำท่วมสูง 2.10 เมตรทีเดียว ดังนั้นหากใครไปบ้านผมตอนนี้ แล้วสงสัยว่า ทำไมมุมบ้านผมด้านบนมันถึงบิ่นเป็นรอยเต็มไปหมด ก็ขอบอกว่าไอ้รอยเหล่านั้น มันคือรอยเรือชน


ตราบเท่าทุกวันนี้ ตลาดป่าโมกก็ยังคงเผชิญชะตากรรมดังกล่าวอยู่ทุกปี

No comments: