Monday 17 January 2011

Today

ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้วที่ผมได้เดินทางกลับมาประเทศไทย วันนี้ได้นั่งดู FB เรื่องราวความเป็นไปของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ประเทศสวีเดน ก็เกิดความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้น

เคยมีคนบอกผมว่า อยากจะทำอะำไรก็ทำเถอะ เพราะช่วงเวลาเหล่านั้นที่มันผ่านเข้ามาในชีวิตนั้น มันอาจจะผ่านมาเพียงครั้งเดียวในชีวิตเท่านั้น หากหวังจะรอครั้งหน้า สิ่งนั้นมันอาจไม่กลับมาในชีวิตเราอีกเลยตลอดชีวิต

สองปีที่สวีเดน ถามว่าผมใ้ช้ชีวิตคุ้มไหม อาจตอบได้ว่ามีทั้งคุ้มและไม่คุ้มในเวลาเดียวกัน ผมได้ทำหลายๆ อย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำในชีวิตนี้ เรื่องบ้าๆ บอๆ ที่เกิดขึ้นในบางโอกาสคงไม่อาจทำได้หากอยู่ที่เมืองไทย การเดินทางที่มีระยะทางไกลในหลายๆ ประเทศก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเข้มแข็งในการเผชิญสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ในสภาพแวดล้อมใหม่ที่แปลกและไม่มีความคุ้นเคยอยู่เลย แม้ว่าผมอาจจะไม่ได้เดินทางไปมากมายหลายประเทศนักเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่ทุกครั้งที่ผมเดินทางก็มีภาพจำที่งดงามในความทรงจำของผมเสมอ ทั้งเรื่องเพื่อนร่วมเดินทางที่น่าจะเรียกว่าเพื่อนร่วมชะตากรรมมากกว่า และเพื่อนใหม่ระหว่างทาง

หากแต่มีอีกหลายสิ่งที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำทั้งที่น่าจะทำได้ พอมานั่งตอนนี้จึงเพิ่งเข้าใจและคิดได้ว่า มันผ่านไปแล้วอย่างรวดเร็ว แล้วผมเองอาจจะไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะกลับไปทำเลย

นี่แหละเราจึงต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เพราะเราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดอะไรขึ้น

ผมสัญญานะ ว่าต่อไปนี้ผมจะทำปัจจุบันให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดว่าทำไม ตอนนั้นเราไม่ทำสิ่งนี้หนอ................