Tuesday 5 January 2010

Traditional mountain sauna

การเดินทางไป Lappland ครั้งนี้ทราบอยู่แล้วครับว่าพวกผมจะต้องไปซาวน่าต้นตำรับที่นั่น และที่สำคัญการซาวน่าเนี่ยะมันเป็น naked sauna แต่ก็นะครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจะได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมของคนสวีเดน

เคยมีคนถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราอยู่สวีเดนนานแล้ว และมีคนกล่าวตอบว่า เมื่อคุณสามารถแก้ผ้าอบซาวน่ากับคนที่คุณไม่รู้จักหรือรู้จักได้อย่างเป็นปกติ ดังนั้นหลังจาด กลับจาก Lappland ผมก็สามารถกล่าวได้ว่าทั้งผมและเพื่อนๆ ร่วมเดินทางครั้งนี้ทั้ง 7 คนคงอยู่สวีเดนมานานกันแล้วจริงๆ 555+

ทันทีที่เข้าพักที่ Abisko hostel คุณลุง Elian housekeeper ก็เข้ามาถามพวกเราเกี่ยวกับการเข้าซาวน่าในรอบค่ำของวันนี้มีว่าพวกเราจะเข้าไหม วันนี้ฝ่ายหญิงทั้งสามปฏิเสธการเข้าซาวน่า ดังนั้นฝ่ายชายทั้ง 4 คนก็เลยต้องเข้าไปสัมผัสกันก่อนเลย ในวันแรกซึ่งจะเริ่มขึ้นอีกประมาณ 2 ชั่วโมงนี้

ห้องซาวน่าของที่นี่อยู่ที่อาคารอีกหลัง เป็นอาคารชั้นเดียวอยู่ถัดจากบ้านสามชั้นที่ใช้เป็นที่พัก เดินออกจากประตูบ้าน ฝ่าหิมะมานิดเดียวก็ถึงอาคารที่เป็นสถานที่ซาวน่าแล้ว ซึ่งมองไปข้างบนจะพบว่ามันอยู่ตรงกับห้องพักของเรามากเลย โอ้วแม่เจ้า.......

น้องที่ได้ไปอบิสโก บอกผมว่าที่นั่นไม่ต้องกังวล เพราะในห้องมืด มีเทียนแค่สองเล่มเองที่ช่วยจุดประกายความสว่าง เฮอๆๆๆๆ

ทันทีที่ถูกต้อนเข้ามาในห้องแรก ลุงเอลีออน ก็บอกให้พวกเราทั้งสี่คนไปนั่งโต๊ะที่วางเทียนไว้ ส่วนที่เหลืออีก 5 คนก็นั่งอีกฝั่งซึ่งไม่มีเทียน แล้วก็แจ้งให้ทุกคนถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ๖คิดแล้วก็เจ็บใจ ไหงว่าไม่สว่าง ไอ้เทียนเนี่ยะสองเล่มก็จริงแต่มันสว่างนะ แถมลุงให้แก้ผ้าหน้าเทียนอีก อารามตกใจนิดหน่อย ทุกคนซึ่งเป็นหน้าใหม่ทั้งหมดก็ปลดปลื้องพันธนาการแห่งแฟชั่นแฃะความหนาวออกหมดทุกชิ้นเดินหน้าเรียงตัวรับผ้าขนหนูผืนเล็กจากลุง เข้าประตูไปยังห้องซาวน่าด้านใน

ทันทีที่เข้ามาด้านในก็มีเตาไฟสำหรับเผาก้อนแร่ และยกพื้นอีกด้านเป็นที่นั่ง ดังนั้นเป้าหมายแรกก็คือการจับจองที่นั่งที่ (ตอนนั้น) คิดว่าเป็นมุมอับแสงที่สุดแล้วนั่งส่วนเสียงต่อมาจากลุงก็คือ ผ้าที่ให้นั้นสำหรับรองนั่ง ไม่ได้สำหรับปิดบัง กรุณาเอาไปรองนั่งบัดนาว ตอนนี้สภาพทุกคนเลยนั่งอายม้วนบิดไปมามีเพียงผ้าหนึ่งผืนรองก้นมิให้ร้อนเมื่อยามกระทบกับพื้นไม้

จากนั้นลุงซึ่งตอนนี้ก็ยืนเปลือยอยู่ก็ผสมน้ำอุ่นให้ทุกคนเพื่ออาบก่อนเริ่มซาวน่าอยู่ ก็เริ่มให้ผู้ร่วมชะตากรรมแต่ละคนเดินเปลือยออกไปด้านหน้าแล้วก็อาบน้ำถูสบู่ทีละคนๆๆๆๆ จนครบแล้วการซาวน่าจึงเริ่มขึ้นด้วยการเอาน้ำราบก้อนแร่ที่วางบนเตาไฟ อุณหภูมิในห้องซาวน่านั้นประมาณ 60 องศา เมื่อเหงื่ออกได้ที่ลุงก็ไล่ให้ทุกคนออกไปด้านนอกเพื่อรับไปเย็นที่ -30 ถึง-25 เพื่อปิดรูขุมขน แล้วก็กลับเข้ามาซาวน่าใหม่ สลับไปมาอย่างนี้ รอบต่อมาผมก็ได้ไปลองกลิ้งกับหิมะแบบเนื้อแนบหิมะทั้งตัวก่อนเข้ามาซาวน่าใหม่ โอ้วจอร์จมันยอดมากกกก

ทำวนไปเรื่อยๆ จนหนำใจแล้วก็ต้องอาบน้ำเปล่าอีกครั้ง ก่อนออกกลับไปห้องได้ ถือเป็นการเสร็จขั้นตอนการซาวน่าครับ ครั้งนี้ผมได้ซาวน่าไปวันแรกกับวันสุดท้ายครับ จนคิดว่าการนั่งต่อหน้าคนโดยปราศจากอาภรณ์ก็ไม่ได้น่ากลัวหรือน่าอายมากมายอย่างที่คิดเลยนะครับ นี่แหละครับคนเราที่มักจะคิดอะไรไปในทาง negative เสมอๆ อย่างน้อยการได้เรียนรู้วัฒนธรรมนี้ของชาวซามิ ก็ทำให้ผมได้ประสบการณ์มากมาย อย่างน้อยก็กลายเป็นคนที่อยู่สวีเดนมานานแล้ว เพราะเริ่มไม่ได้กระดากมากมายแล้วครับ ฮะๆๆๆๆ

ป.ล. อีกนิดที่ผมลงเล็บไว้ว่าตอนนั้นผมคิดว่าด้านที่ผมนั่งน่ะมันเป็นมุมอับแสง ทำให้คนนั่งตรงข้ามอาจมองไม่ค่อยเห็น ในที่สุดแล้วผมก็ได้ไปทดสอบแล้วว่า ที่จิงมันสว่างเท่ากันแหละครับ ฮา....

สรุปว่าไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ เห็นจุดยุทธศาสตร์ครบถ้วน เข้าตำราพิชัยสงครามที่ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยคครั้งชนะร้อยครั้งเลย ฮ่าๆๆๆๆ

No comments: