Wednesday 6 January 2010

Björnens mat (bear's food): ภาคโลโซ

ขึ้นชื่อว่าอาหารแล้ว ขาดไม่ได้ไม่ว่าคนหรือหมี ฮ่าๆๆ

การเดินทางไปแลปแลนด์ครั้งนี้ก็เช่นกัน สัมภาระและเสบียงถูกจัดเตรียมกันได้อย่างลวกๆ มาก เนื่องด้วยก่อนเดินทางผู้ร่วมเดินทางหาได้้ใส่ใจกันไม่ เพราะมัวแต่ช็อปปิ้งในวันบ็อกซิ่งเดย์เป็นหลัก และหมดเวลาพร้อมเงินไปหลายโครนกับการช็อปปิ้ง ดังนั้นอาหารการกินในการเดินทางจึงกลายเป็นเรื่องรองไปเลย

เนื่องด้วยการเดินทางเราต้องโตกันบนรถไฟไปกลับก็เกือบ 2 วันเต็มๆ ดังนั้นอย่างน้อยอาหารการกินที่ต้องสำรองในการเดินทางก็สำคัญใช่ย่อยเช่นกัน

จากการสำรวจอาหารในเบื้องต้นที่บรรดาเหล่าหมีบียอร์นนำขึ้นรถไฟมา ของหลักๆ ที่มีอยู่ทุกกระเป็าก็ไม่พ้นขนม ช็อกโกแลต สนิกเกอร์ KEX แครกเกอร์ น้ำ กล้วย ส้ม และอาหารหลักมื้อเย็นแรกของทุกคนซึ่งแตกต่างกันออกไป


เส้นหมี่ผัดซีอิ้วของผม









ข้าวกับไข่ต้ม และไก่เค็มที่ทำผิดสูตรของหมีขี้อิจฉา









ข้าวเนื้อกระเทียม ไข่ต้ม น้ำพริกนรก ของหมีแข็งแรง และหมีอ่อนแรง



ผัดหมีของหมีจำศีล (ฤๅษี) และอาหารแช่แข็งของหมีบ้าตัวเลข กะหมีบีบี (ที่ไม่ได้บันทึกภาพไว้)

อาหารมื้อแรกของพวกเราผ่านไปได้อย่างอิ่มท้อง สบายใจ กินได้บ้างไม่ได้บ้างตามแค่รสมือของแต่ละคน แต่ก็ทำให้อิ่มท้องและนอนหลับกันได้ในคืนแรกบนรถไฟ

เช้ารุ่งขึ้นด้วยเหตุที่หิมะตกแรง รถไฟก็เลทไปเกือบ 2 ชั่วโมง ดังนั้นอาหารเช้าก็ถูกจัดหากันอีกมือ แต่บางคนที่ไม่ได้เตรีมมาเผื่อก็ต้องอิ่มท้องกันด้วยพิซซ่าของ SJ ราคา 40 SEK


SJ vegetarian pizza 40 SEK









ส่วนอาหารมื้ออื่นๆ ที่ปรุงกันกินก็มีแตกต่างกันออกไป แต่เมนูหลักบนรถไฟก็ไม่พ้น มักกะโรนี กับทูน่าซอส

มักกะโรนี ทูน่า ซอสมะเขือเทศ เมนูหลักบนรถไฟ












ส่วนมื้ออื่นๆ จากที่ได้บอกเล่าไปบ้างแล้วถึงภาวะขาดแคลนอาหารดังนั้นเมนูหลากเลยตามมีตามเกิดจึงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมื้อแรก บะหมี่เนื้อกวางเรนเดียร์



รวมไปถึงเนื้อกวางมูซผัดซอสหอยนางรมพริกไทยดำ มาม่าผัดเนื้อกวางมูซ มาม่าผัดเนื้อกวางเรนเดียร์กินกับข้าวต้มขาว

โอ้ววว มากมาย แม่ว่าจะตามมีตามเกิดแต่อย่างน้อยก็เป็นไปตามเป้าหมายในการเดินทางของผมในครั้งนี้ก็คือการกินเนื้อกวางมูซ และกวางเรนเดียร์สักครั้งในชีวิต

ที่จริงหากไปถามดูว่าคนที่ไปแลปแลนด์จะสักกี่คนที่จะได้กินเรนเดียร์กะมูซเยอะเท่าพวกเรา เพราะพวกเรากินไป 5 มื้อเชียวนะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแยกให้ออกระหว่าง "ได้กินกับได้กลิ่น" จิงม๊ะ 5555

No comments: