Tuesday 5 January 2010

Beauty

ขึ้นชื่อว่าความสวยงาม ทุกคนก็อยากมอง อยากจับต้อง อยากสัมผัส และอยากจับจองเป็นเจ้าของ ผมมีความคิดว่าการมาเที่ยวแต่ละครั้งเราต้องหาภาพจำของการเดินทางครั้งนั้นให้ได้ เพราะว่าภาพถ่ายแม้จะมีแต่มันไม่ได้ให้ความรู้สึกแก่เราเท่าที่เรารู้สึกเอง และภาพทุถ่ายมากหากไม่เปิดมามันก็คงเป็นเพียงกระดาษ หรือไฟล์ภาพที่ไม่ได้มีความหมายมากนัก การบันทึกภาพและความรู้สึกที่ดีที่สุดในการเที่ยวคือการจำภาพด้วยตา และบันทึกไว้ด้วยความรู้สึก หากทำเช่นนั้นได้แล้วการเดินทางครั้งนี้มันจะติดตามเราไปทุกที่ นึกถึงเมื่อไรก็จะมีความสุขทุกครั้งไป หากแต่ภาพจำนั้นไม่จำเป็นต้องสวยงามเสมอไป ภาพดีและไม่ดีตลอดการเดินทางจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราระลึกได้เสมอครับ แต่เรื่องที่จะเขียนนี้เป็นภาพจำเรื่องความสวยงามครับ ซึ่งคงเป็นภาพจำที่ดีเสียมากกว่า








การมา Lappland ครั้งนี้ ผมได้มอง ได้จับต้องและสัมผัสความสวยงามมากมาย แม้ว่าไม่อาจเป็นเจ้าของ หากแต่เพียงการมอง จับต้อง หรือสัมผัสก็ทำให้ผมประทับได้ได้อย่างมากมายไม่รู้ลืม ความสวยงามของเมืองคิรูน่าที่ปกคลุมได้ด้วยหิมะทั้งเมือง บ้านไม้สีแดง ตัดกับหิมะสีขาว Ice hotel ที่สร้างขึ้นจากก้อนน้ำแข็งที่ตัดและลำเลียงมาจาก Trone River ก็เป็นความสวยงามที่บรรยายได้ยาก ความสวยงามของฟยอร์ดตลอดทางไปยังนาร์วิก ที่ภาพถ่ายไม่สามารถบรรยายและบันทึกได้ทั้งหมด ความสวยงามยามเช้าของ Abisko Mountain ที่สวยกว่าภาพวาดในฝันของหลายคน ความสวยงามของแสงเหนือที่มาให้เราเห็นอย่างเกินความคาดหมายทั้งที่ถอดใจที่จะได้เห็นไปแล้ว บรรยากาศการใส่ชุดหมีลุยหิมะเล่นสกี แล้วหยุดลงด้วยการนอนบนหิมะดูแสงเหนือจนกระทั่งแสงนั้นจากไปก็เป็นอีกความสวยงามที่น่าจดจำ


แต่ที่สำคัญ.......ความสวยงามของมิตรภาพของเพื่อนๆ รวมการเดินทางทุกคนในครั้งนี้ ที่ยากที่จะบรรยายได้ แม้ว่ามันจะบันทึกเป็นภาพไม่ได้แต่พวกเราน่าจะรับรู้ได้ด้วยใจ จริงไหม?


น้องๆ ร่วมการเดินทางสรุปว่า แต่อย่างไรเสียหากเทียบแล้วความสวยงามของโรงแรมน้ำแข็งที่มนุษย์สร้างขึ้น ก็ไม่อาจสวยไปกว่าความสวยงามตามธรรมชาติของฟยอร์ด หรือที่อบิสโกได้เลย ซึ่งผมก็เห็นด้วย


สำหรับผมผมคิดว่า เพราะความสวยงามที่สร้างขึ้นนั้นมันอยู่บนฐานที่ต้องให้ผู้พบเห็นตัดสินความสวยงามเหล่านั้น หากแต่ความสวยงามธรรมชาติถูกแต่งแต้มมา อยู่ที่ว่ามนุษย์จะเห็นถึงมันหรือไม่ต่างหาก

No comments: