Thursday 17 April 2008

Farewell

การจากลานั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ค่อยชอบ

ชีวิตพบต้องเผชิญกับการจากมาตั้งแต่เด็ก เมื่อผมอายุได้สิบขวบผมก็ตัดสินใจที่จะเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ

ไม่ผิดหรอกครับ ผมตัดสินใจเอง

อาปา อาม้า เป็นคนที่มองหาอนาคตให้ลูกๆ เสมอ ทั้งสองคนเรียนมาน้อย (อาปาจบป.6 อาม้าจบแค่ ป.4) แต่ทั้งสองคนให้การสนับสนุนด้านการเรียนแก่ลูกๆ เป็นอย่างมาก ทั้งสองท่านอยากให้ลูกๆได้เข้าเรียนในโรงเรียนดีๆ ที่มากกว่าโรงเรียนประจำเทศบาลที่พวกเราเข้าเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก (โรงเรียนเทศบาลวัดป่าโมกข์) ดังนั้นพอพี่สาวผมอายุ 12 ขวบ ก็มาเข้าเรียนที่โรงเรียนประตูชัย ในจังหวัดอยุธยาชั้น ป.5 เช่นเดียวกันกับพี่ชายผม แต่เมื่อเรียนจบประถมศึกษาก็พยายามที่จะให้ลูกๆ ได้เรียนในกรุงเทพฯ โดยได้เข้าหุ้นกับญาติๆ เช่าตึกแถว แถวๆ หัวลำโพงไว้ห้องนึง เพื่อให้ลูกหลานเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ พี่สาวและพี่ชายผมเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ในระดับมัธยมศึกษา โดยพี่สาวเรียนที่โรงเรียนสตรีมหาพฤฒาราม พี่ชายเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์

แต่กับผมซึ่งเป็นลูกคนเล็กและอายุน้อยกว่าคนอื่น อาปาอาม้ากลับส่งให้มาเรียนที่ประตูชัย อยุธยาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ (ป.3) พออายุ 12 ขวบ ขึ้นชั้น ป.5 อาปาอาม้าก็ส่งผมมาเรียนในกรุงเทพฯ โรงเรียนสีตบุตรบำรุง แล้วก็เข้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ตามพี่ชายผม

ตอนแรกอาม้าก็ยังไม่อยากให้ผมเข้ามากรุงเทพฯ สักเท่าไหร่ ต้องตัดสินใจว่าจะให้ผมมาเข้าเรียนตั้งแต่ ป.5 หรือควรรอจนเข้า ม.1 ก่อน อาม้าจึงมาถามความเห็นจากผมในขณะนั้นซึ่งอายุ 11 ขวบกว่าๆ ว่าต้องการแบบไหน อยากจะจากอาปาอาม้ามาตั้งแต่ตอนนี้ หรือว่าจะรออีก 2 ปีตอนเข้าม.1

ผมจำได้ว่าผมตอบอาม้าไปว่า "จะจากกันปีนี้หรืออีกสองปี ก็ต้องจากเหมือนกัน ดังนั้นผมจะไปตั้งแต่ปีนี้เลยแล้วกัน" ท่านทั้งสองก็เลยตัดสินใจให้ผมมาเรียนกรุงเทพฯตั้งแต่ตอน ป.5

ผมยังจำวันนั้นได้ดี กระทั่งมาเรียนกรุงเทพฯ ทุกครั้งที่กลับบ้านผมจะดีใจมากและในเย็นวันอาทิตย์ เวลา 4 โมงเย็นผมต้องกลับมากรุงเทพฯ เพื่อขึ้นรถไฟตอน 6 โมงเย็น ผมจะเข้าไปอาบน้ำและร้องไห้ในห้องน้ำทุกครั้งไป จนเรียกได้ว่าผมชินกับการจากลามาตั้งแต่เด็กก็ว่าได้

1 comment:

ubic said...

i was about to cry while reading this touching story.