Sunday 7 March 2010

Corridor party

ตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่คอร์ริดอร์นี้น่ะ ยังไม่เคยเข้าร่วมคอร์ริดอร์ปาร์ตี้เสียที ครั้งนี้ก็เลยหนีไม่รอดต้องเข้าร่วมกับทุกคนเสียหน่อย


ไอ้ปาร์ตี้เนี่ยะ ทุกคนตกลงกันตั้งแต่เมื่อครั้งผมกลับไปเมืองไทย ดังนั้นหน้าที่ของผมคือแค่รับทราบและปฏิบัติตามเท่านั้น

กลับจากเมืองไทยมา ก็แค่เจอกระดาษแปะเอาไว้ในครัว ว่าจะจัดคอร์ริดอร์ปาร์ตี้ วันที่ 6 มีนาคม 2553

เอาแล้ว แล้วมันต้องทำต้องเตรียมตัวกันบ้างล่ะนี่


ที่นี้ก็เลยต้องนั่งคิดเมื่อครั้งที่แล้ว จำได้ว่าผมกลับมา เจอว่ามีคนนั่งกินเหล้าเบียร์ในครัว บ้าง ในห้องบ้าง ที่สำคัญห้องทุกห้องยกเว้นผม (เพราะเพิ่งกลับมา) ถูกเปิดประตู แล้วแต่ละห้องก็มีคนนั่งไปหมด เลยคิดว่าเอาแล้ว ตายหละ ไอ้คอร์ริดอร์ปาร์ตี้ของสวีดิช เนี่ยะมันจะเหมือนแบบไทยหรือเปล่า เพราะนั่นน่ะแค่กินแล้วก็เม้าท์เท่านั้นเป็นพอ เม้าท์ไม่จบไม่สิ้น


เมื่อวานก่อน ความคืบหน้าก็มาครับ มีกระดาษแปะเพิ่มในครัวว่า สำหรับปาร์ตี้ ทุกคนทำอาหารมากินกัน และที่สำคัญมันแจ้งว่า ให้ทุกคนเตรียมเครื่องดื่ม ไว้ด้วย เพราะว่าจะมี "Tour de Chamber" ??????


ผมแจ้งไปว่าผมจะทำ Noodle Spicy Salad หรือง่ายๆ บ้านเราคือ "ยำมาม่า" 5555+


วันนี้ผมก็ออกไปทำยำมาม่าครับ ตอนแรกว่าจะใส่กุ้งด้วย แต่เอาเข้าจริงเกิดเสียดาย เลยใส่ไปแค่หมูสับกับไส้กรอกไก่ เกิดอาการเสียดายขึ้นมาน่ะครับ



เมนูอื่นๆ เอมิลี่ ทำเกี๊ยวซ่าครับ หรือที่นี่เรียกว่า Fried Dumpling กับหมูผัดเปรี้ยวหวาน พร้อมชาไข่มุกไต้หวัน อิอิอิ


เอมม่า ทำหลายอย่าง เริ่มจากมันฝรั่งต้ม ปลาแฮริ่งทั้งแบบสดไม่ผสมอะไร แบบผสมมัสตาร์ด แบบผสมเครื่องแกง ซึ่งเคยได้ยินสรรพคุณมาเหมือนกันว่ามันเหม็นคาวมาก กับการกินแฮริ่งสดๆ และตบท้ายด้วยเค้กช็อกโกแลต พร้อมวิปครีมและซอสราสเบอร์รี่



พอได้เวลาเสิร์ฟเป็นไปตามคาด บรรดาสวีดิช เหงื่อตกกับยำมาม่าของผมเป็นแถบ เรียกว่าขอทิชชูกันใหญ่ ดีแระให้มันเหงื่อออกกันบ้าง ไอ้ผมก็ดันลืม เพราะดันทำรสชาดซะไทยจ๋าเลย ฮ่าๆๆๆ

อาหารต่างๆ ถูกลำเลียงออกมา โดยเมื่อมาถึงแฮริ่งมมาบอกให้ผมลองอันเป็นแฮริ่งสดๆ โอ้วว สุดยอดคาวเลย แบบใส่ในน้ำมัน คาวมาก แถมพอกินเสร็จต้องกระดกเหล้าตาม แต่แฮริ่งในมัสตาร์ด กับเครื่องแกง รสชาดโอเค ครับ



หลังกาแฟ และขนม เวลาของ Tour de Chamber ก็เริ่มขึ้น เอมม่าอธิบายว่า เป็นธรรมเนียมที่ทุกคนในคอร์ริดอร์จะเข้าไปในห้องของทุกคนทีละห้อง เพื่อไปนั่งเล่นในแต่ละห้อง ส่วนเข้าของห้องก็จะเตรียม Welcome drink ไว้ให้กับทุกคน

โอ้วววว ไม่นะ ผมไม่ชอบให้ใครมาอยู่ในห้อง ยิ่งบรรดาพวกในคอร์ริดอร์ด้วยแล้ว ไม่อยากเลย T_T

เราเริ่มไปที่ห้องเอมม่าก่อน ห้องก็เหมือนกันครับ แต่ต่างออกไปคือการตกแต่ง ที่สะดุดตาที่สุดในห้องนี้ก็คือ มีอ่างอาบน้ำตกแต่งห้องไว้อ่ะ เฮ้อออออ

ห้องทิมเป็นห้องต่อไป ตามด้วยห้องเอมิลี่และอลัน ห้องของโยนัส และปิดท้ายด้วยห้องผม


ผมต้องรับทุกคนด้วย Apple cider และฮอลล์ครับ บอกว่าเป็นไทยแคนดี้ อิอิอิ


พวกเราทัวร์ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ตอนสองทุ่ม จนถึงเกือบเที่ยงคืนแน่ะ


จากนั้นทุกคนก็ออกไปต่อที่ผับ แต่สามเอเชี่ยน ผม อลัน และเอมิลี่ ขอตัวครับ เหนื่อยแล้ว


สรุปจนตอนนี้ผมเดินกลับมาเข้าห้อง ห้องทุกห้องประตูถูกเปิดอ้าไว้หมด เปิดไฟทิ้งไว้ เหมือนภาพที่ผมเจอเมื่อตอนกลับมาครั้งที่แล้ว


แต่ที่ต่างไป คือครั้งนี้ผมรู้แล้วว่าทำไมทุกคนจึงเปิดประตูห้องไว้อย่างนั้น


สรุปแล้ว ไอ้ Tour de Chamber เนี่ยะมันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอก ดีเสียอีกที่ทำให้พวกเราสนิทกันมากขึ้น เพราะตลอดวันนี้กว่าหกชั่วโมง ผมได้คุยกับทุกคนในคอร์ริดอร์มากกว่าปีนึงที่ผ่านมาเสียอีก


ดังนั้น ถามตอนนี้ ผมประทับใจไอ้ Tour de Chamber นี่แหละครับ ใครจะเอาวิธีตามสวีดิชธรรมเนียมนี้ไปใช้ก็ไม่ว่ากัน

ป.ล. ผมถามโยนัสที่มาจากสต็อกโฮล์ม มันเองยังไม่เคยรู้เลยว่าสวีดิชมีธรรมเนียมนี้ด้วย เฮ้อๆๆๆๆ สงสัยจะเป็นธรรมเนียมของสกอเน่ ฮ่าๆๆๆ

No comments: