Tuesday 31 March 2009

Friendship never ending

สองวันแล้วที่เคนจิจากไป........แม้ว่าร่างของเคนจิจะถูกนำไปฝังแล้ว การเดินทางของเคนจิถึงจุดหมายไปแล้วครับ ..............การเดินทางที่ฝ่าฟันมาเป็นเวลานานได้จบลงแล้ว สมุดบันทึกชีวิตของเคนจิได้ถูกเขียนมาจนถึงหน้าสุดท้ายแล้ว และได้ถูกปิดลงอย่างสมบูรณ์ไปแล้ว


แต่สำหรับสมุดบันทึกชีวิตของผมและทุกคนที่รู้จักและผูกพันกับเคนจิ ยังคงไม่ได้เดินทางมาถึงหน้าสุดท้าย หากแต่เพียงในช่วงเวลานี้ยังคงปรากฏว่าเคนจิโลดเล่นอยู่ตลอดเวลา คงต้องอาศัยเวลาสักพักจริงๆ


เคนจิไม่ใช่หมาที่ฉลาดล้ำเลิศ หรือแสนรู้เหมือนหมาอัจฉริยะ แต่ด้วยนิสัยซื่อๆ ว่าง่าย นี่แหละคือเสน่ห์ที่สำคัญของเคนจิ


สำหรับผมแล้วตอนนี้ตอบได้เต็มปากว่าอีกสักพักมันคงจะดีขึ้น


แต่สำหรับบรรดาเพื่อนๆ ของเคนจิแล้ว มันจะรู้สึกอะไรกันบ้างหนอ.............เฟรโด้ โคลบี้ และฮ็อกกี้ยังคงดำเนินชีวิตต่อไป เพียงแต่ช่วงนี้พวกมันอาจจะพบว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น คือพี่ใหญ่สมาชิกของมันหายไปไหน

สิ่งนี้คงจะเป็นคำถามที่ยังคงคาใจพวกมันอยู่

เฟรโด้ยังคงนอนมองเหม่อออกมาที่ประตูบ้านทุกวัน เพราะวันก่อนมันเห็นพี่ชายผมพาเคนจิขึ้นรถไป มันคงคิดว่านี่ก็คงเหมือนกับครั้งก่อนๆ เคนจิพี่ชายใจดี คงไปนอนพักที่ไหนสักแห่ง สักพัก อีกไม่นานก็กลับมา มันคงทำได้เพียงนอนรออย่างมีความหวังว่าอีกไม่นานเคนจิจะกลับมาและมันจะได้้ออกมาวิ่งเล่นกับเคนจิพี่ชายใจดีอีกสักครั้ง

สำหรับโคลบี้แล้ว บ่อยครั้งที่โคลบี้นั่งเหงา นอนเหงาเพียงตัวเดียว ไม่กระชุ่มกระชวย ใครกันหนอที่เคยบอกกันว่าหมาน่ะลืมเร็วจะตาย สักพักมันก็ลืม แสดงว่าคุณคงไม่รู้จักหมาดีพอกระมัง โคลบี้ยังนั่งมองเหม่อตามองออกไปหน้าบ้าน มันคงยังคิดถึงภาพวันที่พี่ชายขนนุ่มของมันนอนและพี่ชายผมยกขึ้นรถออกไป ก็คงเหมือนทุกๆ ครั้ง สักพักเคนจิก็กลับมา แต่มันคงคิดว่าทำไมหนอคราวนี้เคนจิถึงออกจากบ้านไปนานจัง หลายคืนหลายวันแล้วที่มันไม่ไม่ได้นอนหนุน และรับไออุ่นจากขนนุ่มๆ ของเคนจิ เพราะทุกวันมันจะต้องเดินออกมาแล้วไปนอนหนุนตัวเคนจิแทนหมอนอุ่นๆ แล้ววันนี้เคนจิหายไปไหน?

สำหรับฮ็อกกี้เอง คงแปลกถ้าฮ็อกกี้ไม่รู้สึกอะไรเลยกับการหายตัวไปของเคนจิ ทุกวันมันต้องทะเลาะกัน ยิ่งช่วงหลังๆ ที่เคนจิลุกไม่ไหว บ่อยครั้งที่ฮ็อกกี้คาบตุ๊กตามาหา เพื่อชวนเล่น เคนจิก็คงรู้จุดประสงค์ของเพื่อนดี แต่ทำอย่างไรได้ ในเมื่อร่างกายมันไม่เป็นไปตามที่ใจต้องการเลย ทุกวันนี้ฮ็อกกี้ยังนอนรอการกลับมาของเพื่อนที่แม้ว่าภายหลังจะไม่สามารถลุกมาแย่งชิงตุ๊กตากับมันได้ก็ตาม แต่การที่เพียงมองเห็นเคนจินอนอยู่ใกล้ๆ มันก็คงยังคิดว่าอย่างไรเสียเพื่อนมันยังอยู่ที่นี่ ตรงหน้ามันนี่เอง แต่นี่หลายวันแล้วนะ ที่ไม่มีแม้แต่เงาของเพื่อนรักของมัน ใ้ห้เห็นเลย แล้วมันจะแย่งข้าวแย่งของกับใคร เล่นชักกะเย่อกับใคร แม้แต่จะแย่งอาบน้ำกับใคร???


คุณคิดว่าขึ้นชื่อว่าหมา มันไม่มีความรู้สึกหรือครับ เพียงก็แต่มันไม่รู้เท่านั้นว่าการจากไปของเคนจิคืออะไรวันนี้เพื่อนๆ ทกตัวยังคงนั่งรอ นอนรออย่างมีหวังรอวันที่เคนจิจะกลับมา เฟรโด้ยังรอที่จะได้วิ่งเล่นกับพี่ใหญ่ใจดี โคลบี้ยังรอไออุ่นจากเคนจิ ฮ็อกกี้ยังคงรอเพื่อนซี้ที่ะเลาะกันมากว่าสิบปีกลับมาเล่นด้วยกัน ทั้งสามตัวจะรู้ไหมหนอว่าเพื่อที่พวกมันนั่งรอน่ะ จากไปแล้ว จากไปอยู่ในที่ที่ไม่ใครรู้ว่าคือที่ไหน

หมาทุกตัวคงต้องการเวลาสักพัก เพื่อที่จะกลับมาสดใสร่าเริงดังเดิม แต่คงไม่ใช่เพราะว่ามันลืมเพื่อนของมันไปนะครับ หากแต่เพราะว่าการรอคอยของมันยังมาไม่ถึงกระมัง แม้สมุดบันทึกชีวิตของเคนจิจะปิดลงแล้ว แต่สมุดบันทึกชีวิตของเพื่อนทุกตัวมันยังคงต้องเดินทางต่อไป ไม่ได้จบตามเคนจิไปด้วย เพื่อนทั้งสามตัวนั้นล่ะ มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนนั้น มันไม่ได้ถูกทำลายลงเพราะการจากไปของเคนจิ แต่อีกนานเท่าไรที่การคอยอย่างมีความหวังของเพื่อนทั้งสมจะสัมฤทธิ์ผล หลายคนคงตอบได้ว่าคงไม่มีวันนั้น


แต่ความหวังที่มองไม่เห็นปลายทางนั้นก็คือแรงผลักดันที่จะทำให้เฟรโด้ โคลบี้ และฮ็อกกี้ ยังต้องคงเดินทางต่อไป


เมื่อใดก็ตามที่สมุดบันทึกชีวิตของทั้งสามเดินทางมาถึงหน้าสุดท้าย ผมคิดว่าความหวังนั้นคงเป็นจริง มันคงได้เจอกันสักวันเป็นแน่ ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่ง เช่นเดียวกันกับผม เมื่อวันนั้นมาถึง ผมก็หววังว่าความหวังที่จะได้เจอได้ลูบหัว หรือพูดคุยเล่าอะไรให้เคนจิฟังบ้าง จะเป็นจริงขึ้นมา


สำหรับผมแล้วแม้ว่าผมไม่ได้มานั่งหวังเหมือนเพื่อนๆของเคนจิ เพราะผมรับรู้ถึงการจากไปของเคนจิแล้ว แต่การได้มานั่งเขียนเรื่องราวเหล่านี้ ก็เพื่อได้มานั่งคิดถึงความทรงจำดีๆ มากมายที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเคนจิ

หลายครั้งผมไม่พอใจเคนจิที่มันชอบดื้อและไม่ฟัง หลายครั้งที่มันเลอะเทอะไปด้วยโคลน.... แต่ก็บ่อยครั้งเช่นกันที่เคนจิเดินมานั่งใกล้ๆ เอาคางมาเกยขาผม หรือราวเหล็ก เพียงเพื่อให้ผมได้ลูบหัว และเล่าเรื่องราวให้มันฟัง แล้วก็นอนอยู่ข้างๆ ผมเองก็คิดถึงสิ่งเหล่านี้เหมือนกัน ขนนุ่มๆ ของเคนจิที่ผมเคยลูบเล่น หวีเล่น ผมไม่มีแม้กระทั่งโอกาสที่จะบอกลามัน ผมไม่คิดที่จะบอกลามันเลยตอนผมมาที่นี่ เพราะผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นในช่วงที่ผมไม่อยู่ ผมได้เพียงบอกให้พวกมันช่วยกันดูแลบ้านและรอวววันที่ผมกลับมา ซึ่งหากมันเข้าใจจริงๆ เคนจิมันคงรอผมจนเหนื่อยมากแล้ว จนไม่สามารถรอได้อีกแล้วทั้งๆ ที่เวลาอีกเพียงสองเดือนเท่านั้น


แต่มาถึงวันนี้มันคงจะสายเกินที่มานังคร่ำครวญในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่ไม่ว่าตอนนี้เคนจิจะอยู่ที่ใด มันคงรับรู้ได้ว่าผมคิดถึงมันมาก...............


หนุ่ย

No comments: