Thursday 26 June 2008

Raining at the Preah Vihear

การเดินทางไปเขาพระวิหารนั้น ต่อไปคงลำบากมากขึ้น เนื่องจากปัญหาระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ในประเด็นการที่ประเทศกัมพูชาต้องการเสนอชื่อปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก


ผมและเพื่อนจึงตัดสินใจไปที่เขาพระวิหารให้เห็นกันจะจะไปเลยการเดินทางต้องผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แล้วจอดรถไว้ที่ที่ทำการอุทยาน จากนั้นต้องอาศัยสองเท้าของเรานี่แหละ เดินๆๆ จากที่ทำการอุทยานผ่านด่านเข้าบริเวณตีนเขาพระวิหาร ผ่านเข้าดินแดนประเทศกัมพูชา และต้องผ่านด่านเพื่อขึ้นไปบนเขาพระวิหาร เพื่อชมปราสาทพระวิหาร ที่กำลังเป็นปัญหากันอยู่ในปัจจุบัน


แต่กว่าจะถึงบันไดขั้นแรกก็โดนไปสองด่าน ทั้งด่านอุทยาน ด่านไทย ถ้าจะขึ้นไปก็ต้องโดนด่านอีกด่านของกัมพูชา แต่มาทั้งที ค่าด่านแค่นี้คงไม่เป็นปัญหาแล้วแหละ แต่สามด่านหมดไปเกือนร้อยต่อคนเชียวนะพวกเราไต่ภูเขาไปเรื่อยๆ ตามทางเดินจนกระทั่งถึงชั้นบนสุดที่เป็นปราสาทหลักของเขาพระวิหาร เราก็สังเกตเห็นเมฆฝนก้อนใหญ่ลอยอย่างรวดเร็วมาปกคลุมปราสาท และพวกเราที่ยืนอยู่บริเวณนั้น


จากนั้น ฝนก็ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เราเลยต้องทำตัวประดุจชาววังยืนพักในปราสาทชั้นที่หนึ่ง จนกว่าฝนจะซาลง ร่วมกับพันธมิตรชาวเขมร ไม่ต่ำกว่า 20 คน ที่ยืนหลบฝนอยู่ ณ ช่องทางเดินด้านข้างรอบปราสาทชั้นบนสุดของเขาพระวิหาร


ใครจะว่าการมาเขาพระวิหารครั้งนี้อาจจะโชคร้ายนิดหน่อยที่ดันมาติดฝนอยู่บนยอดเขาจนไม่สามารถลงมาสู่เบื้องล่างของแผ่นดินไทยได้ แต่บรรยากาศยามฝนตกบนยอดเขาพระวิหาร ก็น่าดูชมใช่ย่อยนะ สวยงามอย่างประหลาดทีเดียว


ครั้นพอฝนเริ่มซา ก็ค่อยสบโอกาสเดินฝ่าสายฝนพรำๆ ลงมาเรื่อยๆ แต่สายฝนพรำแค่พักเดียวก็ลงมาอีกห่าใหญ่ สรุปแล้วดีนะที่พกร่มมาด้วย


อย่าอย่านึกภาพว่าการกางร่มเดินลงจากเขาพระวิหารจะน่าอภิรมย์นะ เพราะด้วยรัศมีของร่มศีรษะพวกเราเลยไม่เปียกฝนเลย


แต่ตั้งแต่คอลงมา “อย่าไปพูดถึงมัน”








K-Jay

No comments: