Wednesday, 2 September 2009

Summer trip 6: At Hotel Kolpinghaus, Salzburg

การเดินทางมายังซาลบวร์กครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผม ผมไม่เคยเดินทางมายังที่นี่เลย หากแต่ที่นี่เป็นอีกหนึ่งเป็นเป้าหมายที่ผมอยากมาเป็นที่สุด


ดังนั้นจะว่าไปการที่ผมสมัครเรียน Salburg Law School on International Criminal Law, Humanitarian Law and Human Rights Law ก็เหมือนเป็นการมาเที่ยวด้วยไปในตัวครับ


คอร์สนี้ผมหาเจอมาตั้งแต่ก่อนเดินทางมาเรียนที่สวีเดน แต่การจะมาร่วมเรียนโดยเดินทางมาจากประเทศไทย คงลำบากพอดู เพราะค่าใช้จ่ายมันสูง


พอได้มาอยู่ที่สวีเดน ดังนั้นการเดินทางไปเรียนจึงสบายมากขึ้นมามากทีเดียว


หากจะพูดถึงการเดินทางมาซาลบวร์กจากมิวนิคนี้ ค่อนข้างสะดวกทีเดียว หากก็แต่ค่ารถไฟมันไม่ได้ถูกมากนักหรอก นั่งมาก็จ่ายไปราวๆ 25 ยูโรทีเดียว ตกประมาณพันสองร้อยบาทกับการนั่งรถไปราวๆ สองชั่วโมง


ทันทีที่มาถึงชานชลาที่ซาลบวร์ก ก็งงซิครับ ไม่เคยมา แถบแผนที่ทั้งหลายก็ไม่มี ข้อมูลการเดินทางการมีไม่มาก เพราะกะว่ามาเรียนสองอาทิตย์ค่อยมาหาเอาที่นี่ก็ได้ ดังนั้นพอได้แผนที่มาก็งงเป็นไก่ตาแตก เพราะว่าตามข้อมูลที่ทางหลักสูตรให้มาว่าเดินทางจากสถานีรถไฟไปโรงแรมน่ะไปยังไง พอมาดูแผนที่ที่เขาแจก ถนน หรือโรงแรมที่จะไปหักกลับอยู่เลยขอบแผนที่ออกไปซะนี่ อ้าวที่นี่ตรูจะรู้ได้ไงอ่ะว่าตรงไหน เป็นตรงไหน

ดังนั้นอย่างที่เล่าไปน่ะครับ อาศัยปากกับสองขาเท่านั้นที่พาให้ผมได้มาถึงที่นี่ครับ Hotel Kolpinghaus แต่ที่เสียไปคือล้อกระเป๋า แตกเลย เสียของๆๆๆๆ เซ็ง








โรงแรมนี้นี่ะ จริงๆแล้วก็คือหอพักนักศึกษานั่นแหละ พอช่วงซัมเมอร์ทุกคนกลับบ้านกันหมด เขาก็เอามาบริหารจัดการเป็นโรงแรม สามดาว ห้องทุกห้องเป็นห้องคู่สองเตียง ราคาก็ไม่ได้แพงมากนัก แต่พอดีว่ามันรวมในค่าเรียนที่ผมจ่ายไปแล้ว หากแต่ด้วยความที่ผมต้องการความเป็นส่วนตัวก็เลยจ่ายเพิ่มนิดหน่อย แลกกับการที่ ขอนอนคนเดียวนะ เพราะว่ามาอยู่นาน ไหนต้องซักผ้าตากเต็มห้อง แล้วขอแลกกับความเป็นส่วนตัวนิดนึง ดังนั้นก็เลยอยู่คนเดียว กับทั้งช่วงปลายๆ มีเพื่อนผมจากเมืองไทยจะมาเที่ยว ดังนั้นจะเป็นการง่ายถ้าจะให้มาสิงในห้องผม (ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในการให้เพื่อนมาสิงนอนฟรี)



ในห้องมีโต๊ะหนังสือสองโต๊ะ ก่อนมาเขาแจ้งว่าในห้องมีเน็ตให้ใช้ แต่ว่าต้องจ่ายค่าเน็ต ด้วยความที่ขาดไม่ได้ เพราะดันอยู่สวีเดน ประเทศไฮเทคมานาน ก็เลยจ่ายเหมาไปเลยสองอาทิตย์ค่าอินเตอร์เน็ต 30 ยูโร หน้ามืดจ่ายไปเลย


พอต่อมาคุยกะเพื่อนๆ ทุกคนเอาสายแลนต่อใช้เน็ตได้ทุกห้อง ไม่มีใครจ่ายเงินเลยสักคน เซ็งเป็ดอย่างแรง!!!!






ถือเป็นบทเรียนราคาแพงว่าไม่จำเป็นต้องซื่อสัตย์มากก็ได้ในบางโอกาส

No comments: