Wednesday, 2 September 2009

Summer trip 4: the Royal Castles

เช้าวันที่สองของการเดินทางในครั้งนี้ ผมยังอยู่ที่นี่ครับ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี

เมื่อคืนก่อนนอนผมก็นั่งวางแผนอยู่นั่นแหละว่าจะเอาอย่างไรดีหนอ ไปเที่ยวปราสาทดี หรือไม่ไปดี เพราะที่จริงก็เริ่มขี้เกียจ แต่ก็นะ อุตสาห์มาถึงที่นี่แล้ว ยังๆ ก็คงต้องไป แล้วจะไปตอนไหน อย่างไรดีหนอ ข้อมูลที่มีมาก็ไม่มากเท่าไหร่ เท่าที่รู้ก็คือ นั่งรถไฟจากมิวนิคไปฟูเซ่น แล้วนั่งบัสจากฟูเซ่นต่อไปก็จะถึงปราสาทนอยชวานสไตน์แล้ว

ดังนั้นด้วยความที่กลัวว่าอากาศจะร้อน ฝนจะตก (ประมาณว่าไม่ไว้ใจอากาศเท่าไหร่) วันนี้ผมเลยตื่นซะมันตั้งแต่ตีห้าเลย ขณะที่ทุกคนในห้องหลับอุตุ ผมก็หอบสังขารอันบอบบางไต่บันไดเตียงลงมาชั้นล่างเพื่อไปอาบน้ำอาบท่าแต่เช้า

การเดินทางไปปราสาทที่ปรหยัดสุดก็คือการซื้อตั๋วบาเยิร์น สำหรัับการเดินทางในเขตบาวาเรียทั้งหมด โดยปกติจะใช้ได้ตั้งแต่เก้าโมงเช้าถึงตีสาม แต่ถ้าเสาร์อาทิตย์จะใช้ได้ตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงตีสามของวันถัดไป วันที่ผมเดินทางเป็นวันอาทิตย์ เท่ากับตั๋วผมใช้ได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันเสาร์ จนตีสามของวันจันทร์ ผมก็เลยจับรถขบวนแรกๆ เพื่อไปยังฟูเซ่นครับ รถออกตั้งแต่หกโมงเช้า ไปแวพเปลี่ยนอีกขบวน ไปถึงฟูเซ่นก็ประมาณ 8.45 ได้ นั่งประมาณสองชั่วโมงครับ





เมื่อถึงฟูเซ่นเราต้องรอรถบัสเพื่อไปยังปราสาท เช้านี้รถจะมาราวๆ 9.15 ผมเลยต้องนั่งรออีกพักใหญ่


ประมาณสิบนาทีได้ รถบัสก็จะพาเราไปส่งถึงตีนเขา เราต้องเดินต่อไปยังที่ขายตั๋วเพื่อเข้าชมปราสาทครับ


ทรานี่จะมีปราสาทสองปราสาท ก็คือ Hohenschewangau และ Neuschwanstein ครับ ผมซื้อซั๋ว Royal castles ก็คือเข้าชมทั้งสองปราสาทครับ แต่ภายในประสาทไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ เซ็ง



ปราสาทแรกที่ไปชมก็คือ โฮเฮนชวากัว ครับ เป็นปราสาทของพ่อกษัตริย์ลุทวิด ผู้ที่สร้างนอยชวานสไตน์ครับ ที่ปราสาทนี้อยูาไม่สูงมาก จากปราสาทเราสามารถมองออกไปที่ทะเลสาบด้านหลัง ซึ่งจะมีหงส์อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ ชื่อปราสาทนี้จึงชื่อว่า โฮเฮนชวานกัว (the Highland of Swans)


ปราสาทที่สองก็คือ นอยชวานสไตน์ ปราสาทนี้กษัตริย์ลุดวิค ให้มร้างขึ้น แต่เสียดายที่ยังสร้างไม่เสร็จ การชมก็เลยชมได้แค่บางส่วนของปราสาทครับ ปราสาทแห่งนี้ของการสร้างปราสาทเทพนิยายของดีสนีย์ ด้วยนะครับ ปราสาทของเจ้าหญิงนิทราไงครับ หรือไม่ใครยังพอจำปราสาทของแดนเนรมิตได้ ก็ประมานนั้นครับ


กลับจากปราสาท ผมก็ได้ไปนั่งพัก เดินเล่นในเมืองฟูเซ่น เพราะด้วยที่ว่าไม่รู้จะรืบกลับมิวนิคไปทำอะไร

เพราะผมกลับชอบฟูเซ่นมากกว่ามิวนิคนั่นเองครับ

No comments: