กลับมาแล้วครับ จากการเดินทางที่ทุลักทุเล และมีปัญหาต้องแก้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ที่สำคัญผมก็เป็นหนึ่งคนที่ต้องผจญกับปัญหาควันไฟจากภูเขาไฟที่ระเบิดในประเทศไอซ์แลนด์
การเดินทางจากมาลเมอไปยังวอร์ซอร์โดยเครื่องบินดูแลราบเรียบสะดวกสะบายดีครับ ใช้เวลาไม่นานก็ไปถึงกรุงวอร์ซอร์ ประเทศโปแลนด์
จากนั้นก็นั่งรถไฟที่ค่อนข้างต่ำกว่ามาตรฐานไปยังคราคาว เมืองมรดกโลก เดินเที่ยวในเมือง ไปเหมืองเกลือ และไปยังค่ายกักกันนาซี Auschwitz
การเดินทางเริ่มทุลักทุเล เมื่อเครื่องจากคาโตวิช ไปยังบรัสเซลเริ่มเลื่อนเวลา และก็ประกาศแจ้งว่าสนามบินที่บรัสเซลส์ปิด ทำให้เครื่องต้องบินไปลงที่บอนน์ เยอรมนี จากนั้นก็ต้องนั่งบัสจากบอนน์ไปยังบรัสเซลส์
จากบรัสเซลส์ ผมต้องนั่งบัสไปยังอัมสเตอร์ดัม ท่ามกลางผู้คนที่ตกเครื่องมากมาย
ที่อัมสเตอร์ดัม ผมได้ไปชมสวนทิวลิปที่คูเคนฮอฟ ไปบ้านแอน แฟรงค์ red-light area แล้วก็ต้องรีบจัดการเรื่องการเดินทางต่อ เพราะเที่ยวบินกลับถูกยกเลิก
ท่ามกลางผู้คนมากมายที่หน้าออฟฟิซของยูโรไลน์ส ผมต้องพยายามหารถบัสกลับมายังลุนด์ให้ได้ ในที่สุดก็ได้ตั๋วบัสมาครับ
การเดินทางกลัยมาลุนด์ใช้เวลาค่อนข้างนาน เพราะผมออกจากที่พักที่อัมสเตอร์ดัมตั้งแต่สามทุ่มครึ่ง นั่งเมโทรมาเช็คอิน บัสออกประมาณห้าทุ่มครึ่งจากอัมเตอร์ดัม มาถึงฮัมบวร์กตอนหกโมงเช้า
ออกจากฮัมบวร์กแปดโมง มาขึ้นเรือสแกนดิก เพื่อข้ามไปยังเดนมาร์ก แล้วบัสแล่นต่อไปยังโคเปนเฮเกน ถึงตอนบ่ายโมง จากโคเปนเฮเกน ผมนั่งรถไฟต่อมาลุนด์ แล้วเดินกลับมาห้อง
ผมมาถึงห้องก็เกือบบ่ายสองโมงครึงแล้วครับ สรุปแล้วการเดินทางกลับมาของผมใช้เวลาไปเกือบ 17 ชั่วโมง
เหนื่อยมากๆ แต่ก็มีเรื่องราวและภาพจำมากมาย ผมจะค่อยๆ ทยอยเล่าแล้วกันนะครับ แต่ตอนนี้คงต้องขอเวลาพัก และปั่นธีซิสก่อนนะครับ
No comments:
Post a Comment