จากเวโรนา ผมนั่งรถไฟมาประมาณชั่วโมงเศษๆ ก็มาถึงเมืองเวนิซ หรือเวนิเซียครับ
เขาว่ากันว่ามีคลองเยอะ ถ้ามาต้องไปที่สะพานริอัลโต้ ไปนั่งกอนโดล่า พอมาถึงปั๊บการเดินทางก็เริ่มครับ
ที่สถานีรถไฟทีเวนิซนี่คนเยอะมาก มาออรอซื้อตั๋วรถไฟกันแน่นขนัด จนคิดภาพไม่ออกว่าวันรุ่งขึ้นสงสัยต้องรีบมาซื้อตั๋วรถไฟแต่เช้า เพื่อจะได้ไม่ตกรถไฟอีก เพราะวันรุ่งขึ้นนอกจากต้องกลับมิลานแล้ว ผมยังต้องกลับสวีเดนด้วย
จากสถานีรถไฟผมเดินตามทางเพื่อไปยังจุดหมายคือที่บ้านไทย ห้องที่ผมจะอาศัยพักในคืนนี้ หลังจากเข้าล้างหน้าล้างตา ก็เริ่มตระเวนเดินอย่างเดียวครับ แผนที่ก็ไม่มีเดินตามๆ กันไป เป้าหมายคือ Sant Marko ครับ
แต่ระหว่างทางก็แวะถ่ายภาพโน้นนี่ไปเรื่อยทั้งสะพาน Rialto, Grand Canal, Gondolas and Sant Marko
เดินมากว่าครึ่งชั่วโมงก็มาถึงซามมาโคร แต่กว่าจะมาถึงก็ปิดซะแล้วผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูข้างใน ก็เลยได้แต่เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ
วันแรกเดินอยู่จนค่ำ มีคนบอกว่ามาถึงเวนิซควรจะออกมาชมบรรยากาศยามค่ำคืนที่นี่ด้วย ดังนั้นหลังอาหารค่ำก็เลยมาเดินเล่นที่ลานหน้าซานมาร์โค่ ซึ่งเปลี่ยนสภาพเป็นร้ายนั่งดืมกิน และฟังดนตรีแสดงสดของหลายร้าน
บรรดาแขกของร้านต่างๆ ต่างพากันลุกขึ้นจูงมือคู่รักออกมาเต้นรำท่ามกลางแสงจันทร์มากมาย อยากบอกว่าโมแรนติก มั่กๆๆๆ
จนกระทั่งเที่ยงคืน ระฆังที่หอดังขึ้นบอกเวลาว่าค่ำคืนนี้จบลงแล้ว ผมถ่อสังขารกว่าจะกลับถึงห้องเกือบสี่สิบนาที มาถึงพอหัวถึงหมอนก็สลบลงยันเช้าเลย
เช้ารุ่งขึ้นผมรีบไปจองตั๋วรถไฟกลับแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด จากนั้นก็นั่งเรือด่วนเวเนเซีย น้องชายของเรือด่วนเจ้้าพระยา เพื่อถ่ายภาพ ก่อนจะเดินหาซื้อของเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็เตรียมเก็บของ
รถไฟออกจากเวนิซตอนเที่ยงกว่าๆ กว่าสามชั่วโมงผมก็เดินทางมาถึงมิลาน แล้วก็ต่อรถจากสถานีรถไฟสนามบินมาลเปนซ่า นั่งเครื่องจากมาลเปนซ่า เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี มาลงที่โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก แล้วนั่งรถไฟต่อมาลุนด์ ประเทศสวีเดน แล้วเดินต่อเพื่อกลับห้อง สรุปผมถึงห้องตอนเวลา ห้าทุ่มครึ่ง สะระตะแล้วเดินทางทั้งสิ้น เกือบสิบเอ็ดชั่วโมง !!!!!!
...............................................................
ทริปอิตาลี่ ก็จบไปแล้ว ตอนนี้ผมก็กลับสู่ความเป็นจริงแล้ว รอเพียงว่าอีกไม่นานคงจะได้เดินทางอีกเป็นแน่ อย่างน้อยก็คือการเดินทางกลับประเทศไทยในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้
3 comments:
เพื่อให้เขากับบรรยากาศ ขอยกวรรคทองของ "เวนิสวานิช" ขึ้นมาโชว์หน่อย
๏ อันว่าความกรุณาปราณี
จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ
แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล
เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น
เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา
ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์
เรืองจรัสยิ่งมกุฏสุดสง่า
พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา
เหนือประชาพสกนิกร
ประดับพระวรเดชวิเศษฤทธิ์
ที่สถิตอานุภาพสโมสร
แต่การุณยธรรมสุนทร
งามงอนกว่าพระแสงอันแรงฤทธิ์
เสถียรในหฤทัยพระราชา
เป็นคุณของเทวาผู้มหิทธ์
และราชาเทียมเทพอมฤต
ยามบพิตรเผยแผ่พระกรุณา
ภาคภาษาอังกฤษ ไม่รู้แหะ
แถมท้ายด้วย MV สวยๆ ชวนให้รำลึกถึงเวนิส ไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียตริก
http://video.yahoo.com/watch/542327/2757818
http://video.yahoo.com/watch/442995/2484221
โอ้วเพลงเข้าท่าด้วย Stupid mistake 5555
Post a Comment