สำหรับผมหลังจากเทศกาลมหาหยุดผ่านพ้นไป วันนี้ก็เป็นวันแรกที่ผมต้องกลับมาทำงานสักที ทั้งนี้เพราะว่าตั้งแต่ผ่าเท้าเมื่อวันที่ 1 เมษายน เป็นต้นมาผมก็ไม่ค่อยได้เข้ามาทำงานเลย รู้สึกว่าจะมาแค่ 2 วันเห็นจะได้
สงกรานต์ที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้ไปสาดน้ำตู้มๆ กัน หรือปะแป้งเผียะๆ สนุกสนานร่าเริงแต่จนแล้วจนรอด กระทั่งตอนนี้เท้าของผมก็ยังคงไม่หายเป็นปกติเลย เวลาเดินยังคงกระเผลกอยู่บ้าง และยังคงเจ็บเล็กน้อยเวลาเดินเลยทำให้ลงน้ำหนักได้ไม่เต็มเท้าเท่าไหร่ ยังคงต้องทำแผลไปเรื่อยๆ คาดว่าปลายเดือนนี้ก็คงจะโอเคแล้ว
ดังนั้นผมต้องอดทุกสถานการณ์เพราะว่าแผลที่ผ่าตาปลามายังคงแผลงฤทธิ์อยู่ คาดว่ากว่าจะสิ้นฤทธิ์ก็คงใกล้สิ้นเดือนนี้ทีเดียวสงกรานต์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีโปรกแกรมไปลั้นลาที่ไหน ดังนั้นก็เลยตกลงกับตัวเองว่าต้องกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไปป๊ะหน้าพ่อแม่สักครา ดังนั้นจึงไม่รอช้าจับรถเร็วจี๋ 1.2 กิโลเมตรต่อนาที มุ่งหน้าสู่อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง แล้วก็ไปค้างอยู่บ้านสักสองคืน แล้วก็รีบชิงกลับมาบ้านก่อนที่ชาวบ้านเขาจะกลับกันมา
ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว เมื่อเอ่ยถึงอำเภอป่าโมกบ้านผม ก็เลยจะมาแนะนำสักหน่อย ผมเกิดที่นี่แหละ โตที่นี่จนกระทั่งย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพตอน ป.5 สักสิบขวบเห็นจะได้
เดิมเรียกตำบลป่าโมกว่าบ้านป่าโมก เพราะว่ามีต้นโมกจำนวนมากในเขตตำบลป่าโมก ต่อมามีการเปลี่ยนระบบการปกครองบ้านป่าโมก จึงยกฐานะเป็นอำเภอป่าโมกถ้าใครผ่านมาแถบนี้อย่าลืมแวะมาเที่ยวกันได้นะ แต่ที่เที่ยวส่วนมากจะเป็นวัดน่ะสิ
แต่ก็ดีจะได้ทำบุญกัน
โอ้ยวันนี้หมดเวลาสนุกแล้วสิ เด๋วค่อยมาเล่ากันต่อวันหลังนะครับ
ลาก่อนคร้าบ
Hello,
Welcome back to the real world!!
For Songkran weekend, I did not have any LULLA programme, so I went back to my hometown 'Pamok' and stayed there with my parents for 3 days.
No comments:
Post a Comment