ผมมาอยู่ที่ลุนด์เดือนหนึ่งแล้วหรือนี่ ใจหนึ่งก็ว่ามันเร็วจัง แต่อีกใจหนึ่งก็ว่าเวลามันเดินช้าจริงๆ เลยนะ
เมื่อเดือนที่แล้วจำได้ว่าผมออกเดินทางจากประเทศไทยคืนวันที่ 23 แล้วไปอยู่ที่โคเปนเฮเกนมาคืนหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางต่อมาที่ลุนด์ในวันที่ 25 สิงหาคม
ถ้าถามผมว่าผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนในการอยู่นอกประเทศไทย มีอะไรเกิดขึ้นกับผมบ้าง ผมเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง ผมคงตอบได้ว่าเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นกับผมในช่วงการใช้ชีวิตลำพังในต่างแดนของผม ทุกเรื่องราวที่ผ่านมาน่าจดจำ เพียงแต่บางเรื่องราวมันน่าจดจำไว้เป็นบทเรียนสิไม่ว่า เอาเป็นว่าผมจะบอกให้เป็นเรื่องๆ เท่าที่เวลาจะอำนวย และเท่าที่จำได้แล้วกันนะ
ผมเรียนรู้ว่า
- การเดินทางในโลกนี้เพียงลำพังนั้น มันไม่ได้ยาก หากแต่เราต้องไม่ทำตัวแปลกแยกกับที่ที่เรามาเยือน
- การเดินทางที่ดูเหมือนยาวนาน กลับสั้นเพียงเพราะการมีเพื่อนร่วมเดินทางที่ดี
- การใช้ชีวิตต่างแดน ก็เป็นเหมือนปกติชีวิตเราแหละ ไม่ต่างกันเลย หากแต่เปลี่ยนที่กินที่นอนเท่านั้นเอง
- การอยู่ต่างประเทศที่ว่าทำให้เราโตขึ้นนั้น คงจะหมายถึงการโตในแง่ที่เราสามารถจัดการเรื่องราวต่างๆ ด้วยตัวเองกระมัง
- เด็กนอก แล้วไง ก็ไม่ได้ดีเด่จากคนทั่วไปนี่นา
- ข้าวสารเท่านั้นที่ผมต้องการ อย่าเอาขนมปังกะนมมาแลกกับข้าวสาร ผมไม่ให้ แล้วก็ดีใจที่ตัดสินใจเอาหม้อหุงข้าวมาด้วย
- ทำไมข้าวญี่ปุ่นมันถูกกว่าข้าวไทย
- อยู่เมืองไทยแสนสบาย อยากกินอะไรก็ได้ ผมเข้าใจแล้วว่าคนพูดรู้สึกยังไง
- ฝรั่งหัวทอง มันไม่ได้ฉลาด หรือดีเด่อะไรกว่าคนหัวดำหรอกครับ ผมยืนยันได้
- ภาษาอังกฤษนี่สำคัญแฮะ
- ยังไง๊ยังไง ผมก็ชอบนอนแอร์มากกว่าฮีตเตอร์หรือเรดิเอเตอร์
- ผมเดินมากจนขาแข็งแล้วอ่ะ แค่เดือนเดียวเอง
- ระยะทางทำให้ผมเข้าใจความหมายของคำว่าคิดถึงได้ดีขึ้น
- ไม่รู้เป็นไร อยู่เมืองนอกท้องผมร้องบ๊อยบ่อย เหมือนกินเข้าไปมันไม่อยู่ท้องเลย
- เพื่อนต่างแดนมันมีทั้งดีและไม่ดีแหละ บางทีคนผิวสีกลับมีจิตใจดีกว่าผิวขาวเสียหลายโขนะ
- ของมือสองเมืองนอกมันถูกดีเน๊อะ ว่ามั๊ย
ว่าไปมาก็ได้มาเยอะเหมือนกันแฮะ เอาแค่นี้ก่อน ไว้วันหลังจะสาธยายในรายละเอียดให้ฟังอีกทีแล้วกันเน้อ
1 comment:
just saw curtain from yr room's photo.. look very luxury na..but errrrrr...seem like u enjoy shopping 2nd hand very much na
Post a Comment