Saturday 20 February 2010

Responsibility

ระยะเวลากว่าสิบปีที่ผมเลี้ยงดูฮ็อกกี้มา ผมคิดเสมอว่านั่นเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผมที่จะต้องดูแลหมาตัวนี้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถของผม


มันคือความรับผิดชอบที่ผมสมัครใจที่จะทำ เพราะมันไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงเหมือนที่คนทั่วไปอาจจะคิดว่า ก็แค่หมาตัวหนึ่ง




หมากับคน คนกับหมา บางครั้งผมอาจที่จะเลือกที่จะอยู่กับหมามากกว่าอยู่กับคน ฮ็อกกี้ไม่เคยทำให้ผมเสียใจ หรือผิดหวังเลย ตรงกันข้ามมันกลับเป็นกำลังใจแรกๆ ที่ส่งมาถึงผม ทุกวันที่ผมกลับถึงบ้าน


ตั้งแต่วันที่ผมรับมันเข้ามาอยู่ร่วมในครอบครัว ผมก็มองว่ามันคือสมาชิกของครอบครัวผม ดังนั้นการสูญเสียมันไปก็เป็นความรู้สึกเหมือนสมาชิกหนึ่งตัวของครอบครัวเราได้จากไปแล้ว


บางครั้งที่แม่ผมเบื่อถึงขั้นบอกว่าให้เอามันไปยกให้คนอื่นไหม ซึ่งก็แน่ว่าคำตอบของผมคือ"ไม่" ผมให้คำตอบกับแม่ผมไปว่า หมาก็เหมือนกับคนแหละ เมื่อเราตัดสินใจที่จะเลี้ยงเขาแล้ว เราก็ต้องเลี้ยงเขา ผมไม่มีวันที่จะเอามันไปยกให้ใครหรอก เราต้องเลี้ยงเขาให้ได้ และให้ได้ดีเท่าที่เราสามารถทำด้วย


บางครั้งเมื่อผมมองตาฮ็อกกี้ ผมรู้ได้ดีว่าฮ็อกกี้เข้าใจผมในทุกๆ เรือง เพียงแค่มันพูดออกมาไม่ได้เท่านั้นเอง แต่สัมผัสที่มันมีให้ผม การเลีย หรือการเอาปากมาดุนมือผมเบาๆ ก็เป็นการให้กำลังใจที่ดีมากแล้วจากฮ็อกกี้


หากมันพูดได้ มันคงถามผมบ้างแหละ ว่าผมหายไปไหน ทำไมไม่มาเจอมันเลย แต่เดือนนึงที่กลับไปผมก็พยายามชดเชยช่วงเวลาที่หายไประหว่างเราเสมอเท่าที่มีโอกาส ผมได้มีโอกาสพามันไปเดินเล่นที่สวนในหมู่บ้าน ได้พามันเดินเล่น พามันวิ่ง ซึ่งมันจะมีความสุขทุกครั้งเพียงแค่เห็นผมหยิบเชือกและโซ่ที่ใช้ล่ามมันเวลาออกไปนอกบ้าน มันคงรู้ว่าเวลาเดินเที่ยวของมันมาถึงแล้ว


ฮ็อกกี้เป็นหมาที่แข็งแรง ภาพที่มันดีใจเวลาเจอผม จะเป็นภาพเดิมๆ คือมันจะเข้ามาด้านหลังและกระโดดเอาขาหน้าทั้งสองข้ามมากอดเอวผมจากด้านหลัง แล้วผมก็ต้องคอยปรามเสมอๆ ว่ารู้แล้วว่าคิดถึง พอแล้วๆๆ หรือการมากัดมือผมย้ำๆๆเล่นไป เพื่อแค่แสดงให้เห็นถึงว่าผมอยู่ตรงนั้นกับมัน ตรงหน้ามันจริงๆ


การกลับบ้านครั้งหน้า คงไม่มีภาพเหล่านี้อีกแล้ว ภาพเหล่านี้คงเหลือเก็บไว้เพียงในความทรงจำของผมเท่านั้น ความทรงจำที่ว่า ครั้งหนึ่ง ผมเคยรักหมาตัวหนึ่งมากเพียงใด และมันรักผมมากเพียงใด.......


และเป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่บทเพลงแค่ได้คิดถึงดังขึ้น ภาพความทรงจำทั้งหลายเหล่านี้จะหมุนเข้ามาให้ผมสัมผัสถึงความผูกพัน และความทรงจำดีๆ ระหว่างเราผุดขึ้นมา


ความรู้สึกของผมตอนนี้มันจุก เหมือนหายใจไม่ค่อยออก มันตื้อไปหมด เหมือนหัวผมไม่ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ เท่าไหร่ เมื่อคืนนั่งรถกลับมาห้องก็ไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ ความรู้สึกตอนนี้ของผมคือความต้องการที่ไม่อาจเป็นไปได้ คือการได้กอดมันสักครั้ง ลูบหัวมันสักครา และบอกลามันสักคำว่า "ลาก่อน" ก่อนที่ร่างมันจะถูกฝังไป แต่มันคงเป็นไปไม่ได้จริงๆ


การจากลาที่เกิดขึ้นกับผมทุกครั้ง มันต่างไปจากหลายๆ คน เพราะเป็นการจากลาที่ผมเผชิญนั้น ผมไม่เคยมีโอกาสแม้กระทั่งบอกลาสักคำเลย


และบทสรุปของเรื่องนี้ ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม เหมือนทุกครั้งตามบทเพลงนี้ที่ว่า


"ขอบฟ้าที่เรานั่งมองคราวนั้นยังมีความหมาย
ต้นไม้ลำธารยิ่งมองยิ่งคิดถึงเธอมากมาย
ชีวิตที่มันขาดเธอวันนี้ยังเดินต่อไป
แค่ได้คิดเธอก็สุขใจ และคงคิดถึงเธอตลอดไป"


และก็คงต้องอาศัยเวลาอีกสักพักจริงๆ ที่ผมจะคิดถึงมันได้โดยปราศจากน้ำตาที่ไหลออกมาได้


หลับให้สบายนะฮ็อกกี้


หนุ่ย

3 comments:

ae+ said...

หลับให้สบายนะฮ็อกกี้

POPEYE said...

มีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้เหมือนกันค่ะ ร้องไห้กับหมากับแมวบ่อยๆ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ฮ็อกกี้ไปสบายแล้วค่ะ

kitmarc said...

POPEYE@ ขอบคุณครับ ทำไงได้ มันต้องเป็นไปตามธรรมชาติน่ะครับ